ติดตั้ง OS ให้ Raspberry pi ด้วย Raspberry pi imager

Omakase Teach Tech
3 min readSep 18, 2022

--

  1. Raspberry pi ที่ใช้ทดลองเป็น Raspberry pi 3 Model B v1.2

2. ใช้ UGREEN Adapter สำหรับนำไฟล์ Image Raspbian ใส่ไปใน SD Card

**หรือจะใช้ SD Card Adapter ก็ได้

3. เสียบ SD Card เข้ากับ Adapter และนำไปเสียงเข้ากับคอมพิวเตอร์ที่พอต USB

4. เข้าไปที่เว็บ https://www.raspberrypi.com/ และเลือก Software และเลือก Download for Windows เพื่อ Download Raspberry Pi Imager เมื่อ Download เสร็จเรียบร้อยให้ทำการติดตั้งตามปกติ และเปิดโปรแกรม Raspberry Pi Imager ขึ้นมา

#Raspberry Pi Imager เป็นโปรแกรมที่ให้บริการเราในเรื่องของการนำไฟล์ OS ชนิดต่างๆ ที่สนับสนุนให้ติดตั้งได้กับ Raspberry Pi มาใส่ใน SD Card ตามที่เราต้องการและเลือกติดตั้ง

5. ที่ Operating System ให้เลือกปุ่ม CHOOSE OS และเลือกที่ Raspberry Pi OS(Other) จากนั้นให้เลือกที่ Raspberry Pi OS(64-Bit)

6. ที่ Storage เลือกที่ปุ่ม CHOOSE STORAGE เลือก MassStorageClass USB Device 7.9GB(หรือขนาดตามที่เลือกใช้งาน)

7. เลือกที่ปุ่มฟันเฟือง เพื่อกำหนดค่าที่จำเป็น

8. กำหนดชื่อของ Raspberry Pi เช่นเดียวกับชื่อของคอมพิวเตอรฺ์ที่เราใช้งาน ในตั้วอย่างนี้่จะกำหนดชื่อเป็น “MyRpi001” และ เลือกให้เปิดให้สามารถเชื่อมต่อระยะไกล(Remote Login)ได้ด้วยโปรโตคอล SSH โดยเลือกแบบ Use password authentication

9. เลือก Set username and password ในตัวอย่างจะเลือก user = pi และกำหนด password ให้โดยมีความยาว 8 ตัวอักษรขึ้นไปและผสมตัวอักษรกับตัวเลข

10. หากต้องการเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน Wifi ให้เลือก Configure wireless LAN และใส่ค่า SSID(ชื่อของจุดเชื่อมต่อ Wifi ) และ password ที่ใช้เข้าใช้งาน Wifi เลือก Wireless LAN country = TH

*** แต่หากเชื่อมต่อด้วยสายให้ข้ามข้อนี้ไป

11. เลือก Set location setting และเลือกดังภาพ

12. เมื่อกำหนดค่าทุกอย่างครบแล้วให้กดปุ่ม SAVE และเลือก WRITE จากนั้นรอจนเสร็จสิ้นการคัดลอก

13. เมื่อ Raspberry Pi Imager คัดลอกระบบปฏิบัติการลง SD Card เสร็จแล้ว ให้ถอด SD Card ออกจาก Adapter อย่างถูกต้องเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลภายใน จากนั้นนำ SD Card ที่ได้ไปใส่ที่บอร์ด Raspberry Pi และเสียบปั๊กให้เริ่มทำงาน

14. ไปที่ https://www.advanced-ip-scanner.com/th/ เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรม Advanced IP Scanner เมื่อทำการติดตั้งเรียบร้อยให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา และกดปุ่มสั่งให้สแกนหา Computer ในเครือข่าย เราจะพบกับชื่อ Raspberry Pi Foundation ที่ส่วนของ manufacturer

ข้อควรจำ บางครั้งก็ไม่แสดงชื่อเป็น Raspberry Pi Foundation แต่จะแสดงเป็นชื่อของ USB Wifi ที่เรานำมาใช้ ดังนั้นควรสังเกตุว่ามีหมายเลข IP ใดที่เพิ่มขึ้นมาแปลกๆ ให้ลองเชื่อมต่อ ssh ด้วย putty ดูอีกที

จากการใช้โปรแกรม Advanced IP Scanner พบหมายเลข IP ชุดใหม่ที่เพิ่มจากเดิมและในส่วนของ manufacturer แสดงเป็นชื่อของ USB Wifi ที่นำมาใช้

15. สังเกตุ IP จากข้อที่ 14 ซึ่งจะเป็นช่องทางที่เราจะเข้าไปกำหนดค่าตั้งๆ โดยใช้โปรแกรม Putty ผ่านโปรโตคอบ SSH ซึ่งจะเชื่อมต่อผ่าน Port 22 เมื่อกำหนดค่าครบตามภาพให้กดปุ่ม Open

หากสามารถติดต่อกับ Raspberry Pi ได้จะพบหน้านี้

16. กรอก user = pi หรือตามที่กำหนดในข้อ 9. ส่วนรหัสผ่านตามที่เรากำหนดเช่นกัน เมื่อกรอก password แล้วให้กด Enter หาก user และ password ถูกต้องจะเข้าสู่ส่วนของการรับคำสั่งต่อไปดังนี้

17. ให้ทำการอัพเดท และ อัพเกรดระบบด้วยคำสั่งต่อไปนี้

การอัพเดท

การอัพเกรด

ตอนนี้ก็สามารถเข้าใช้งาน Raspberry Pi ได้โดยไม่ต้องมีจอไปต่อที่ตัวบอร์ด และในขั้นต่อไปจะทำอะไรต่อนั้นติดตามชมนะครับ…….

--

--

No responses yet